สวัสดีพี่น้องแรงงานทุกท่าน
สำหรับคนไกลบ้านที่ไม่สามารถเล่นสงกรานต์ที่เมืองไทยได้ ทำได้ดีที่สุดคือการวิเคราะห์ ขีด เขียน ด้วยความหวังว่า การเป็นอีกหนึ่งเสียงเพื่อนำเสนอบทวิเคราะห์การเมืองไทย และนำเสนอต่อทั้งคนไทยและคนต่างชาติ อาจจะเป็นมีส่วนบ้างในช่วยให้การเปลี่ยนผ่านการเมืองไทยสู่ประชาธิปไตยประชาชนเป็นไปได้โดยไม่รุนแรง และชนชั้นสูงที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน ยอมลงจากอำนาจแต่โดยดี และประเทศจะได้เดินหน้าไปสู่เส้นทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริงเสียที
ชุดนำเสนอ "เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย" นี้เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะนำเสนอปัญหาเมืองไทยที่ซับซ้อน และวุ่นวายให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งได้พัฒนาปรับปรุง และแปลเป็นภาษาไทยจากภาษาอังกฤษที่นำเสนอครั้งแรกที่ฟินแลนด์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2554
การนำเสนอชุดนี้อาจจะดูซับซ้อนในบางช่วง แต่เพื่อการนำเสนอภาพองค์รวมของปัญหาเมืองไทยที่สะสมมาอย่างยาวนาน รวมทั้งผลกระทบจากแผนพัฒนาประเทศตามวิถี "ทุนนิยม" ตามก้นอเมริกา พิ่เบิ้ม นับตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2490 เป็นต้นมา โดยไม่ได้ใตร่ตรองให้รอบคอบถึงจุดแข็งและความหลากหลายของประเทศ จนนำพาประเทศไทยตกขบวนการพัฒนามาหลายสิบปี จากการเป็นหนึ่งใน 45 ประเทศร่วมก่อตั้งสหประชาชาติเมื่อปี 2498 มาอยู่ในลำดับประเทศพัฒนาปานกลางในปี 2548 (ลำดับที่ 73) แต่ก็ได้ตกร่วงลงมา 20 ลำดับ มาสู่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในปี 2553 (ลำดับที่ 92) ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี
ยิ่งปล่อยให้ปัญหาการเมืองไทยยืดเยื้อยาวนานมากเท่าไหร การพัฒนาของประเทศก็ยิ่งถดถอย และถอยหลังมากขึ้นเรื่อยๆ และก็จะยากมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะสร้างเสถียรภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศอย่างแท้จริง
สำหรับคนเสื้อแดง พวกเขาไม่ต้องดูดัชนีชี้วัดของสหประชาชาติก็เข้าใจได้ดีถึงความถดถอยของการพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตของพวกเขาที่ย่ำแย่ลงทุกวัน จนได้พากันออกมาประท้วงกันต่อเนื่องเป็นแสนเป็นล้านคน - จนหมดเงิน หมดทอง กันครอบครัวละหลายหม่ืนบาทตลอดสองปีที่ผ่านมา - ก็เพราะตระหนักได้ดีแห่งการถดถอยของการพัฒนาประเทศ จนยากจะทนอยู่นิ่งเฉย ได้อีกต่อไป
ภาพการนำเสนอ "เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย" ขุดนี้จึงไม่สามารถจะพูดเฉพาะการปะทะทางการเมืองระหว่างประชาชนกับค่ายทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและรัฐบาลรอยัลลิสต์เท่านั้น แต่นำเสนอภาพของวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้น และการประท้วงของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะวิกฤติธรรมชาติ และการต่อสู้ของคนชนบทเพื่อปกป้องทรัพยากรและวิถีชีวิต เพราะพวกเขาเป็นเสียงที่เงียบหายโดยตลอด และต้องต่อสู้กันมาอย่างยาวนานหลายสิบปี โดยที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางทุกยุค ทุกสมัย ที่มุ่งกาพัฒนาประเทศโดยยึดเอากรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางมานับตั้งแต่ต้นราชวงศ์จักรี โดยเฉพาะนับตั้งแต่นโยบายรวมศูนย์ของรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา
กรุงเทพที่ดูดเงินตราจากทั้งประเทศมากองรวมกันไว้มากมาย จนไม่รู้จะทำอะไร เอางบประมาณ 10,000 ล้านบาทมาละลายเล่นกับการสร้างสกายวอล์ค ที่ไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อย
ในวาระเพื่อการก้าวไปข้างหน้า เราได้เสนอว่า การจะพัฒนาสังคมไปข้างหน้า มุ่งสู่การพัฒนาที่ทัดเทียม แผนการพัฒนาต่อไปนี้ต้องวาง "ชนบท" เป็นหัวใจของการพัฒนา
ถ้าเห็นว่าการนำเสนอชุดนี้มีประโยชน์สำหรับการศึกษา ยินดีให้เผยแพร่และใช้ได้ตามอัธยาศัยค่ะ
จรรยา ยิ้มประเสริฐ
ลิงค์ "เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย"
อ่านต่อ ดาวน์โหลดได้ ที่นี่
สำหรับคนไกลบ้านที่ไม่สามารถเล่นสงกรานต์ที่เมืองไทยได้ ทำได้ดีที่สุดคือการวิเคราะห์ ขีด เขียน ด้วยความหวังว่า การเป็นอีกหนึ่งเสียงเพื่อนำเสนอบทวิเคราะห์การเมืองไทย และนำเสนอต่อทั้งคนไทยและคนต่างชาติ อาจจะเป็นมีส่วนบ้างในช่วยให้การเปลี่ยนผ่านการเมืองไทยสู่ประชาธิปไตยประชาชนเป็นไปได้โดยไม่รุนแรง และชนชั้นสูงที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน ยอมลงจากอำนาจแต่โดยดี และประเทศจะได้เดินหน้าไปสู่เส้นทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริงเสียที
ชุดนำเสนอ "เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย" นี้เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะนำเสนอปัญหาเมืองไทยที่ซับซ้อน และวุ่นวายให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งได้พัฒนาปรับปรุง และแปลเป็นภาษาไทยจากภาษาอังกฤษที่นำเสนอครั้งแรกที่ฟินแลนด์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2554
การนำเสนอชุดนี้อาจจะดูซับซ้อนในบางช่วง แต่เพื่อการนำเสนอภาพองค์รวมของปัญหาเมืองไทยที่สะสมมาอย่างยาวนาน รวมทั้งผลกระทบจากแผนพัฒนาประเทศตามวิถี "ทุนนิยม" ตามก้นอเมริกา พิ่เบิ้ม นับตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2490 เป็นต้นมา โดยไม่ได้ใตร่ตรองให้รอบคอบถึงจุดแข็งและความหลากหลายของประเทศ จนนำพาประเทศไทยตกขบวนการพัฒนามาหลายสิบปี จากการเป็นหนึ่งใน 45 ประเทศร่วมก่อตั้งสหประชาชาติเมื่อปี 2498 มาอยู่ในลำดับประเทศพัฒนาปานกลางในปี 2548 (ลำดับที่ 73) แต่ก็ได้ตกร่วงลงมา 20 ลำดับ มาสู่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในปี 2553 (ลำดับที่ 92) ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี
ยิ่งปล่อยให้ปัญหาการเมืองไทยยืดเยื้อยาวนานมากเท่าไหร การพัฒนาของประเทศก็ยิ่งถดถอย และถอยหลังมากขึ้นเรื่อยๆ และก็จะยากมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะสร้างเสถียรภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศอย่างแท้จริง
สำหรับคนเสื้อแดง พวกเขาไม่ต้องดูดัชนีชี้วัดของสหประชาชาติก็เข้าใจได้ดีถึงความถดถอยของการพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตของพวกเขาที่ย่ำแย่ลงทุกวัน จนได้พากันออกมาประท้วงกันต่อเนื่องเป็นแสนเป็นล้านคน - จนหมดเงิน หมดทอง กันครอบครัวละหลายหม่ืนบาทตลอดสองปีที่ผ่านมา - ก็เพราะตระหนักได้ดีแห่งการถดถอยของการพัฒนาประเทศ จนยากจะทนอยู่นิ่งเฉย ได้อีกต่อไป
ภาพการนำเสนอ "เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย" ขุดนี้จึงไม่สามารถจะพูดเฉพาะการปะทะทางการเมืองระหว่างประชาชนกับค่ายทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและรัฐบาลรอยัลลิสต์เท่านั้น แต่นำเสนอภาพของวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้น และการประท้วงของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะวิกฤติธรรมชาติ และการต่อสู้ของคนชนบทเพื่อปกป้องทรัพยากรและวิถีชีวิต เพราะพวกเขาเป็นเสียงที่เงียบหายโดยตลอด และต้องต่อสู้กันมาอย่างยาวนานหลายสิบปี โดยที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางทุกยุค ทุกสมัย ที่มุ่งกาพัฒนาประเทศโดยยึดเอากรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางมานับตั้งแต่ต้นราชวงศ์จักรี โดยเฉพาะนับตั้งแต่นโยบายรวมศูนย์ของรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา
กรุงเทพที่ดูดเงินตราจากทั้งประเทศมากองรวมกันไว้มากมาย จนไม่รู้จะทำอะไร เอางบประมาณ 10,000 ล้านบาทมาละลายเล่นกับการสร้างสกายวอล์ค ที่ไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อย
ในวาระเพื่อการก้าวไปข้างหน้า เราได้เสนอว่า การจะพัฒนาสังคมไปข้างหน้า มุ่งสู่การพัฒนาที่ทัดเทียม แผนการพัฒนาต่อไปนี้ต้องวาง "ชนบท" เป็นหัวใจของการพัฒนา
ถ้าเห็นว่าการนำเสนอชุดนี้มีประโยชน์สำหรับการศึกษา ยินดีให้เผยแพร่และใช้ได้ตามอัธยาศัยค่ะ
จรรยา ยิ้มประเสริฐ
ลิงค์ "เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย"
อ่านต่อ ดาวน์โหลดได้ ที่นี่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น